ยืนหนึ่งเรื่องราคาและคุณภาพ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สุดคุ้มกับดีลเด็ดและส่วนลดเพียบที่จัดเต็มมาให้ลูกค้า โปรโมชั่นดีๆทุกวัน มาตรฐานดี การันตีคุณภาพ โปรโมชั่นดี ราคาจริงใจ
คุชชั่น คือ ผลิตภัณฑ์ที่เนื้อรองพื้นซึมอยู่ในฟองน้ำและบรรจุอยู่ในแพ็คเกจที่เป็นตลับขนาดพกพาสะดวก มีจุดเด่นคือ สามารถปกปิดได้สูงโดยไม่จำเป็นต้องใช้คอนซีลเลอร์รวมถึงเมคอัพเบส ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่สาว ๆ หลายคนหลงรักการใช้คุชชั่นค่ะ เพราะสามารถแต่งหน้าให้เสร็จได้โดยใช้เวลาไม่นาน นอกจากนี้ยังสามารถทารองพื้นได้โดยที่ไม่ต้องเลอะมือเลย ตอนนี้ที่ไทยก็มีหลายแบรนด์ที่จำหน่ายคุชชั่น มีทั้งรุ่นแมตต์และรุ่นโกลว์แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ
แต่หากจะมองหาข้อเสียของเจ้าคุชชั่นสัก 1 ข้อ ก็คงจะเป็นปริมาณที่มีน้อยกว่ารองพื้นทั่วไปค่ะ หากใครที่ใช้ทุกวันอาจจะมีความรู้สึกว่า “หมดอีกแล้วหรอ!” ดังนั้นขอแนะนำให้มีเจ้าคุชชั่นไว้เป็นทางเลือกสำหรับตอนที่รู้สึกว่าไม่มีเวลาแต่งหน้า หรือต้องการแต่งหน้าแบบเร่งด่วนจะดีกว่าค่ะ
ก่อนที่เราจะไปดูคุชชั่นทั้ง 10 อันดับกัน มายเบสท์อยากจะแนะนำ 4 จุดสำคัญที่สาว ๆ ควรเช็กดูให้ดีก่อนเลือกซื้อคุชชั่นค่ะ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ฟินิชลุคของคุชชั่นมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบให้ลุคผิวฉ่ำวาวกับแบบให้ลุคแมตต์ ซึ่งข้อมูลพวกนี้จะมีบอกที่แพ็กเกจหรือคำอธิบายสินค้าอยู่แล้ว สาว ๆ อยากให้ลุคในแต่ละวันออกมาแบบไหนก็เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ
หากใครกังวลเรื่องผิวแห้งว่าทารองพื้นแล้วจะแคร็ก หรือเป็นคราบ ๆ เราแนะนำให้เลือกคุชชั่นที่ให้ฟินิชฉ่ำวาวหรือแบบกึ่งแมตต์ ผิวจะดูนุ่มและชุ่มชื้น คุชชั่นจะสามารถทำให้ผิวดูเรียบเนียนโดยที่ไม่รู้สึกแห้งกร้านหรือจนเกินไป คุชชั่นที่ให้ฟินิชลุคที่ฉ่ำวาวแบบนี้มีข้อดีคือ แห้งยาก แม้จะทาตั้งแต่เช้าถึงเย็นก็ไม่ทำให้ผิวดูแห้ง แคร็ก ให้เป็นปัญหากวนใจค่ะ
ผู้ที่กังวลว่าหากเวลาผ่านไปแล้วหน้าจะเยิ้ม การเลือกคุชชั่นแบบแมตต์ถือเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ นอกจากจะไม่ทำให้หน้าดูมันแล้วคุชชั่นแบบแมตต์ยังให้การปกปิดสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องรูขุมขน เนื่องจากคุชชั่นแบบแมตต์ให้การปกปิดสูง จึงทำให้พอทาแล้วสาว ๆ อาจจะรู้สึกว่าเนื้อสัมผัสหนา ดังนั้นใครที่จะซื้อคุชชั่นแบบแมตต์ก่อนซื้อ ควรทดสอบให้ดีก่อนว่า เนื้อคุชชั่นให้ความรู้สึกหนาเกินไปหรือไม่
Tips : สำหรับคนที่ผิวมีข้อบกพร่องแต่อยากได้ลุคบางเบา แนะนำให้ใช้คุชชั่นเนื้อลิควิดแล้วปกปิดจุดข้อบกพร่องที่เห็นชัดด้วยคอนซีลเลอร์แทน ลองเลือกใช้ให้เหมาะกับวิธีแต่งหน้าของตัวเองดูค่ะ
ไม่ว่าจะเหงื่อหรือความมันก็ล้วนมีผลต่อการแต่งหน้า ดังนั้นขอแนะนำให้คุณเลือกคุชชั่นที่สามารถช่วยให้ผิวสวยได้ยาวนานค่ะ หากเป็นคุชชั่นที่มีเครื่องหมายว่าทนมัน กันเหงื่อและน้ำ ก็มั่นใจได้เลยว่ารองพื้นไม่หลุดระหว่างวันแน่นอนค่ะ แต่หากไม่ได้ใช้งานจริง สาว ๆ ก็คงจะไม่รู้ว่าคุชชั่นแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ดังนั้นก่อนซื้อควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดจากรีวิวจากผู้ใช้จริง หรือถ้าสามารถไปลองเทสต์ที่เคาน์เตอร์ได้ก็จะดีที่สุดค่ะ
การเลือกสีรองพื้นกับสีคอให้ตรงกันเป็นสิ่งสำคัญ หากเลือกสีรองพื้นที่ขาวเกินไปก็จะทำให้หน้าลอยและดูใหญ่ แต่ถ้าหากสีที่เข้มไปก็จะทำให้หน้าดูหมองได้ การเลือกสีคุชชั่นมีผลต่อการแต่งหน้ามาก ดังนั้นขอแนะนำให้เลือกสีให้ดีค่ะ หรือใครไม่มั่นใจในสายตาตัวเองจะให้เพื่อนช่วยเลือกก็ได้นะคะ ป้องกันการถูกคนรอบข้างแซวว่าหน้าเทา เมื่อตัดสินใจได้ว่าเลือกสีไหน ให้ลองเทสต์ที่กรอบหน้าหรือลำคอ ไม่ใช่ที่แขนหรือหลังมือ หากลองทาคุชชั่นที่คอแล้วรู้สึกว่าสีไม่ต่างกันมากก็แปลว่าเพื่อน ๆ ได้คุชชั่นที่เหมาะกับผิวแล้วล่ะค่ะ
สำหรับการแต่งหน้าพื้นฐานนั้น สิ่งสำคัญคือต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกั้นรังสี UV ได้ เลือกค่า SPF/PA ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ใครที่อยู่นอกบ้านเป็นเวลานานก็ควรใช้คุชชั่นที่มีค่า SPF สูง แต่หากทำงานภายในอาคารหรือไม่ค่อยโดนแสงแดด คุชชั่นที่ค่า SPF ต่ำ ก็สามารถใช้ได้ค่ะ แต่ถ้าคุชชั่นที่เล็งไว้ดันไม่มีสารกันแดด แนะนำให้ทาเมคอัพเบสหรือเลือกใช้แป้งรองพื้นที่ผสมสารกันแดดควบคู่กันไปนะคะ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นที่อาจจะเกิดได้ในอนาคต
สาว ๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายแนะนำว่าควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมน้อยชนิด แม้ว่าคุชชั่นที่มีส่วนผสมเยอะจะให้ประสิทธิภาพด้านความงามสูง แต่เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมหลายชนิดมักมีโอกาสที่จะมีสารก่อให้เกิดระคายเคืองผสมอยู่มากกว่าเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมน้อย ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกคุชชั่นที่ส่วนผสมไม่ซับซ้อน และหลีกเลี่ยงส่วนผสมอย่างสารกันบูดหรือส่วนผสมที่มีน้ำมันปิโตรเลียมเป็นเบสค่ะ
ทุกวันนี้คุชชั่นมีหลากหลายราคาเหลือเกิน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของส่วนประกอบที่นำมาผลิต เพราะฉะนั้นก่อนซื้อ สาว ๆ อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องนี้ควบคู่ไปกับความปลอดภัยของส่วนประกอบด้วยนะคะ คุชชั่นที่มีราคาแพง ส่วนใหญ่คุณภาพของส่วนประกอบมักจะได้รับการคัดสรรอย่างดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างจากรุ่นที่ราคาถูกจนเห็นได้ชัดขนาดนั้น ของถูกแต่คุณภาพดีก็มีให้เห็นกันไม่น้อย ดังนั้นใครที่เพิ่งลองใช้เป็นครั้งแรก แนะนำให้เลือกจากผลิตภัณฑ์ที่ราคาไม่แพงมาก แต่มีคุณภาพดีและปลอดภัยดีกว่าค่ะ
สาว ๆ หลายคนคงรู้ใช่ไหมล่ะคะว่าต้นกำเนิดเจ้าคุชชั่นมาจากแดนโสมขาว หรือก็คือประเทศเกาหลีใต้นั่นเอง ใครที่อยากได้คุชชั่นจากประเทศออริจินอลที่ช่วยเนรมิตรผิวของสาว ๆ ให้สวยใส ฉ่ำวาวสไตล์สาวเกาหลี ต้องตามไปดูบทความ '10 อันดับ คุชชั่นเกาหลี ยี่ห้อไหนดี ฉบับล่าสุด ปี 2020' แล้วล่ะค่ะ
หากพูดถึงแบรนด์ FIIT หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหู เพราะเป็นแบรนด์น้องใหม่ของคนไทย คุชชั่นตัวนี้ถูกพัฒนามาเพื่อผิวสาวไทย ทำให้ไม่ลอย ไม่วอกแน่นอน มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน ผิวขาวอมชมพูหรือสาวผิวสีน้ำผึ้งก็ใช้ได้ค่ะ หลังทาจะให้ฟินิชลุคแบบแมตต์แต่ไม่แห้ง ให้ลุคงานผิว ใช้เป็น Every Day Cushion ตามชื่อรุ่นได้เลย
เนื้อคุชชั่นค่อนข้างหนา ทำให้ปกปิดได้แบบ Full Coverage จากรีวิวผู้ใช้จริงพบว่าหลังจากทาแล้วให้ความรู้สึกเนียน เป๊ะ ไปทั้งหน้า นอกจากนี้ยังมีน้ำแร่ธรรมชาติจากเกาะเชจู ที่ช่วยผลักแร่ธาตุเข้าสู่ผิวอีกด้วย แต่หากใครใช้แล้วเป็นคราบตรงข้างจมูก แนะนำว่าอย่าโบกไปเลยทีเดียว ค่อย ๆ แตะไปทีละนิดค่ะ ถ้าอยากสวยต้องใจเย็น ๆ นะจ๊ะสาว ๆ
อีกหนึ่งแบรนด์สัญชาติไทยที่มาพร้อมแพ็กเกจลาย My Little Pony น่ารัก มุ้งมิ้ง เอาใจสาว ๆ ถึงแม้เพ็จเกจจะดูเด็ก แต่คุณภาพไม่เด็กตามไปด้วยนะจ๊ะ เพราะมาพร้อมคุณบัติเด่นสองประการ คือ Cover Base และ Blooming Powder ที่ทำให้เนื้อคุชชั่นปกปิดได้ดี แน่น ไม่ว่าสายเกาหรือสายฝอก็ใช้ได้
ฟินิชลุคของเจ้าตัวนี้เป็นแบบแมตต์ ใครที่หน้าแห้งหากไม่ได้ออกแดดหรืออยู่ข้างนอกนาน ๆ ก็ไม่ต้องตบแป้งตามก็เอาอยู่ค่ะ หลังใช้หน้าสวยเนียนระดับ FULL HD เลย แม้จะดูใกล้ ๆ ก็ไม่โป๊ะ นอกจากนี้ยังมี SPF30 PA++ ที่ช่วยปกป้องผิวเราจากแดด ถึงแม้ทางแบรนด์จะเคลมว่ากันน้ำกันเหงื่อ แต่จากรีวิวผู้ใช้จริงพบว่า หากมีเหงื่อคุชชั่นจะหลุดเล็กน้อยและตัวพัฟก็ค่อนข้างแข็งค่ะ
อีกหนึ่งคุชชั่นสัญชาติเกาหลี ที่โด่งดังจากซีรีส์เรื่อง Memories of Alhambra เพราะนางเอกปาร์ค ชินฮเยใช้ทาในฉาก แต่ก็ไม่ใช่แค่โด่งดังจากซีรีส์เท่านั้น เรื่องคุณภาพก็เต็มเปี่ยมเช่นเดียวกันค่ะ เพราะเป็นคุชชั่นที่ปกปิดดี คุมมันและติดยาวนาน 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ทันทีเนื้อคุชชั่นสัมผัสผิวจะให้ความรู้สึกเนื้อแมตต์แบบแป้ง ๆ ระหว่างวันก็ไม่มีความมันเพิ่มเติม เนื่องจากทางแบรนด์มีนวัตกรรม Sebum-Controlling รีวิวจากผู้ใช้จริงพบว่ามีคุชชั่นหลุดบ้างระหว่างวัน มีทริคว่าก่อนทาคุชชั่นควรเตรียมผิวให้ชุ่มชื้นก่อน เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดคราบตามรูขุมขนได้ค่ะ ใครอยากผิวสวยเหมือนนางเอกเกาหลี ต้องมีแล้วนะคะ
หลังจาก Cutepress เคยออกคุชชั่นและได้รับการตอบรับอย่างดีว่าเป็นคุชชั่นถูกและดีมาแล้ว คราวนี้ก็ถึงตาน้องใหม่อย่าง 1-2-BEAUTIFUL AIRY MATTE CUSHION คุชชั่นเนื้อแมตต์ที่ทางแบรนด์เคลมว่าให้สัมผัสเบาสบายราวอากาศ เนื้อคุชชั่นปกปิดแบบ Full Coverage แต่ไม่หนักผิว แต่หากใครมีรอยหลุมสิวเยอะก็อาจจะปิดได้ไม่หมดค่ะ
จากรีวิวผู้ใช้จริง หลังแต่งหน้าให้ความรู้สึกแมตต์แต่หน้าไม่แห้ง ให้ความรู้สึกที่เป็นผิว เนียน เป๊ะ ดูสุขภาพดีจนเหมือนสวยมาจากภายใน หากออกไปข้างนอกเจออากาศร้อนอาจเกิดคราบเล็กน้อยที่รูขุมขน เวลาซับหน้าด้วยทิชชู่เนื้อรองพื้นไม่หลุดติดมา คุมมันได้ดี เวลาผ่านไปซักพักสีจะดรอปลงพอดี ทำให้ไม่ขาวลอย ที่สำคัญในกล่องมีตลับรีฟิลแถมมาด้วย สมคำร่ำลือว่าถูกและดีจริง ๆ ค่ะ
มาถึงแบรนด์ที่โด่งดังเป็นพลุแตกจากแป้งเบลอรูขุมขน ล่าสุดออกคุชชั่นที่เคลมว่า บางเบาแต่ปกปิดมา เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการงานผิวให้ลุคเกาหลีใส ๆ ตัวเนื้อคุชชั่นติดทน ควบคุมความมันได้เล็กน้อย หลังแต่งหน้าให้ลุคที่ดูเนียน ฉ่ำวาว สามารถปิดรอยใต้ตาและรอยสิวได้ระดับปานกลาง ตอบโจทย์คนที่ต้องการคุชชั่นที่บางเบาแต่ปกปิดค่ะ ตัวพัฟก็มีความนุ่มหนึบไม่บาดผิวอีกด้วย
ใครที่กลัวว่าพอเป็นแบรนด์เกาหลีแล้วจะมีแต่สีที่ขาวเกินไปก็สบายใจได้เลย เพราะทางแบรนด์ออกคุชชั่นสี Sand Beige มาเอาใจสาวผิวแทนแล้วล่ะค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าพอใช้แล้วจะโดนล้อว่าหน้าเทาแแล้ว แต่สีคุชชั่นอาจจะไม่ค่อยออกเหลือง ใครที่ไม่ชัวร์ ลองเทสต์กับผลิตภัณฑ์จริงดูก่อนนะคะ
อีกหนึ่งแบรนด์เครื่องสำอาง Hi-End อย่าง LANCÔME ก็ออกคุชชั่นมาตีตลาดอยู่หลายรุ่นเช่นเดียวกัน รุ่นนี้ให้ฟินิชลุคแบบกึ่งแมตต์ ที่มีเนื้อนัมผัสบางเบา ไม่เหนียวและไม่หนักหน้า ทาแล้วให้ผิวสวย ดูสุขภาพดี ฉ่ำน้ำ เนื้อคุชชั่นปกปิดปานกลาง ใครที่เป็นรอยแดงรอยดำคุชชั่นตัวนี้อาจปกปิดได้นิดหน่อย
จากรีวิวผู้ใช้จริงพบว่า ระหว่างวันคุชชั่นยังคงให้ลุคแมทแต่ชุ่มชื้น ไม่เยิ้ม แถมสาว ๆ คนไหนที่ต้องออกแดดก็ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะเจ้าตัวนี้มี SPF 50/PA+++ มาด้วย เรียกได้ว่าเป็นคุชชั่นที่เหมาะกับอากาศร้อน ๆ อย่างประเทศไทยเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ใครที่หน้ามันมากก็อย่าลืมเซ็ทด้วยแป้งนะคะ นอกจากนี้ตัวแพ็จเกจก็ออกแบบมาหรูหราตาแตกมาก ๆ สาว ๆ คนไหนที่มีงบก็รีบสอยเลยค่ะ
มาถึงคุชชั่นที่โด่งดังในโลกออนไลน์กันแล้ว กับแบรนด์ JUNG SAEM MOOL แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีที่เน้นงานผิว รุ่นนี้ให้ฟินิชลุคผิวโกลว์แบบ Glass Skin ที่ฉ่ำน้ำกำลังดี เหมือนสุขภาพดีจากภายใน เนื้อคุชชั่นเหมาะกับสาวผิวแห้ง สาวผิวแห้งที่ไม่ชอบลงแป้งก็แต่งหน้าต่อได้เลยค่ะ แต่อาจจะต้องเซ็ทช่วงทีโซนที่มันง่ายนิดนึง
ทางแบรนด์มีทริคการทาคุชชั่นที่ทำให้ปกปิดดีแต่ผิวดูเป็นธรรมชาติ คือ ให้ใช้พัฟถูวนฝาด้านในตลับฝั่งที่เขียนว่า Mix & Touch จนเนื้อคุชชั่นหายหมด การกระจายตัวของเนื้อคุชชั่นจะสวยขึ้นค่ะ จากรีวิวผู้ใช้จริง หลังออกไปข้างนอกเนื้อคุชชั่นอาจจะมีตกร่องนิดหน่อยแต่ไม่ไหลไม่เยิ้ม ผิวยังคงนวลสวย ดูสุขภาพดี เบลอรูขุมขนได้ ใครที่ยังไม่มี รีบหามาเป็นเจ้าของด่วน ๆ ค่ะ
คุชชั่นจากแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำ MAC ที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นคุชชั่นแมตต์เนื้อกำมะหยี่ คือ เป็นเนื้อแมตต์แต่ไม่แห้ง เนื้อคุชชั่นดัดแปลงมาจากรองพื้นในตำนานของ MAC อย่าง M.A.C Studio Fix Fluid ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว ควบคุมความมันและติดทนยาวนานแน่นอน
จากรีวิวผู้ใช้จริงพบว่าเนื้อคุชชั่นปกปิดดีมากแต่ไม่หนักหน้า กันน้ำและกันแดดได้ถึง SPF 50/PA++++ นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเคลมว่าสามารถติดทนยาวนานถึง 24 ชั่วโมงเลย สาว ๆ คนไหนที่แต่งหน้าตั้งแต่ตอนเช้าแล้วตอนเย็นยังอยากไปปาร์ตี้ต่อ คุชชั่นตัวนี้เอาอยู่แน่นอน เฉดสีก็มีมากถึง 24 เฉดสีด้วยกัน ผิวสีไหนก็รอดค่ะ
สำหรับการเติมคุชชั่นระหว่างวัน แนะนำให้ซับหน้าบริเวณที่มีความมันออกก่อนลงคุชชั่นนะคะ เพราะถ้าลงตอนที่ผิวมีฟิล์มไขมันเคลือบอยู่ เนื้อคุชชั่นจะดูหนาเตอะ โดยค่อย ๆ เริ่มลงทีละน้อย จากนั้นให้เบลนด์แต่บาง ๆ ก่อน ผิวของคุณจะได้ดูสวยเป็นธรรมชาติค่ะ
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนอาจจะกังวลคือ “ปริมาณ” เพราะคุชชั่นมีเนื้อรองพื้นน้อย แต่ราคาแพงพอกับแบบขวดเลย สาว ๆ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะหลายรุ่นมีรีฟิลให้ซื้อแยก ช่วยประหยัดเงินไปได้เยอะเลย